กราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ "วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร" จ.นครศรีธรรมราช
“เก็บเรื่องมาเล่า โดยหนุ่ม สุทน” ทักทายกันวันพุธที่ 6 มีนาคม 2567 พาท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ "วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร" หรือเดิมทีชื่อ "วัดพระบรมธาตุวรมหาวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอก" ตั้งอยู่ริมถนนราชดำเนิน อำเภอเมือง จังหวัดนครนครศรีธรรมราช
วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
"วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร" สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองนครศรีธรรมราชมาตั้งแต่ครั้งเจ้าชายทนทกุมารและพระนางเหมชาลา ซึ่งเป็นพระโอรสและพระธิดาของเจ้าผู้ครองเมืองทันทบุรีได้จัดสร้างพระเจดีย์หรือพระบรมธาตุเจดีย์ซึ่งรูปแบบสมัยอาณาจักรศรีวิชัยเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุตามตำนานกล่าวว่าพบบริเวณหาดทรายแก้วแล้วต่อมาเมื่อพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชได้สร้างเมืองขึ้นมาใหม่แล้วก็ชื่อ "เมืองศรีธรรมราช" ซึ่งก็เป็นพระนามของพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชและต่อมาก็เป็น "นครศรีธรรมราช" ถึงทุกวันนี้เมื่อพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชครองเมืองแล้วได้บูรณะองค์พระธาตุเจดีย์ขึ้นมาใหม่รูปทรงระฆังคว่ำสันนิษฐานว่าน่าจะได้รับอิทธิพลมาจากเมืองศรีลังกา เพราะครั้งกระนั้นเมืองศรีธรรมราชมีสัมพันธไมตรีหรือสัมพันธภาพด้านพระพุทธศาสนากับกษัตริย์แห่งศรีลังกา ดังนั้นพระธาตุเจดีย์จึงเป็นทรงระฆังคว่ำสูง 37 วา 2 ศอก ส่วนยอดสูงสุดหุ้มด้วยทองคำมองเห็นเป็นสีเหลืองดงามจริง ๆ
องค์พระธาตุเจดีย์ งดงามด้วยแสงแห่งธรรม งดงามทุกช่วงเวลาครับ
ส่วน "องค์พระธาตุเจดีย์" ล้อมรอบด้วยวิหารคต ซึ่งถือว่าเป็นเขตแดนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากด้วยเจดีย์เล็ก ๆ ล้อมรอบองค์พระธาตุเจดีย์หรือพระบรมธาตุเจดีย์ดูแล้วมีพลังถึงความศักดิ์สิทธิ์ในดินแดนทางพระพุทธศาสนา ท่านผู้อ่านทุกท่านผมเองได้ไปในวิหารคตของวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารมาแล้วหลายครั้งด้วยเหตุผลจึงของแนะนำพอได้จุดธูปเทียนบูชาพระบรมสารีริกธาตุแล้วให้เข้าวิหารทับเกษตรแล้วตั้งจิตตั้งใจอธิฐานขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ขอได้ทุกเรื่องเช่น ขอให้เป็นมงคลตนเองและครอบครัว การประกอบธุรกิจให้เจริญรุ่งเรืองหรือเรื่องโชคลาภ เป็นต้น แล้วก็เดินสวดมนต์ล้อมพระบรมธาตุเจดีย์ 3 รอบ ซึ่งมีองค์พระพุทธรูปเก่าแก่ประดิษฐ์อยู่รอบ ๆ จำนวนมากจริง ๆ
งดงามมากครับ ดูแล้วมีพลังแห่งแรงศรัทธา
เสร็จแล้วออกมาเข้า "วิหารทรงม้า" ถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เช่นกันในวิหารทรงม้าควรนั่งสมาธิเพื่อกำหนดจิตใจให้มั่นคงแล้วขอพรเทพเทวดาที่สถิตในวิหารทรงม้ามี "องค์พระพุทธรูปปางอภัยทาน" ส่วนบันไดสีแดงสถิต "ท้าวจตุคามรามเทพ ท้าวขัตตุคามและท้าวรามเทพ" ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่รักษาพระบรมธาตุเจดีย์ตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮิดูเชื่อว่าเป็นเทพเจ้าสูงสุดที่ให้ความช่วยเหลือประชาราษฎร์ด้วย ดังนั้นควรตั้งใจขอพรให้ประสบผลสำเร็จหรือสมความปรารถนาในสิ่งที่ขอพรไว้
กราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นมงคลชีวิตยิ่งครับ
ส่วนคำที่เรียกว่า "วิหารทรงม้า" นั้นสันนิษฐานว่าเมื่อครั้งเป็นเมืองศรีธรรมราชเชื่อว่ามีชาวเมืองศรีลังกาได้เดินทางมาเพื่อปฏิบัติธรรมหรือจะบวชเป็นพระภิกษุก็ให้จัดสร้างบันไดเรียกว่าวิหารทรงม้าน่าจะนึกถึงองค์พระศาสดาเมื่อครั้งทรงม้าออกจากพระราชวังเพื่อแสวงหาด้านวิชากรรมฐานแล้วก็สำเร็จเป็นองค์พระศาสดาของพระพุทธศาสนา
ดูมีพลังแห่งความศรัทธาในทุกมุมของวิหารครับ
เสร็จก็ออกมาเข้า "พิพิธภัณฑ์ของวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร"ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับสิ่งของต่าง ๆ และองค์พระพุทธรูปสมัยโบราณโดยเฉพาะผู้ที่ต้องการมีบุตรให้ตั้งจิตใจขอพร "องค์พระพุทธรูปปางประทานอภัยหรือหลวงพ่อพระพวย" เป็นพระพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ถ้าขอให้มีบุตรก็จะประทานพรให้ส่วนใหญ่จะได้สมความปรารถนา "หลวงพ่อพระพวย" เป็นพระพุทธรูปที่เคยประดิษฐานอยู่ที่วัดโมคลานอำเภอท่าศาลาครั้งนั้นก็พบมีน้ำไหลออกมาจากฐานดอกบัวด้วยเหตุผลนี้จึงเรียกว่า "พระพวย" เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องน้อยแต่พุทธลักษณะงดงาม
วางแผนการเดินทางของคุณ ด้วยการขอรับคำปรึกษาการจัดสรรค์โปรเเกรมการท่องเที่ยวและจองรถได้ที่ 061-1819-888 คุณเเอลรับรองว่าทุกทริปของการเดินทางของคุณจะเต็มไปด้วยความสุขและความประทับใจ ด้วยบริการระดับมืออาชีพ